การเตรียมตัวมาสัมภาษณ์งานที่ Wongnai

May Kanchana
Life@LINE MAN Wongnai
2 min readMay 28, 2018

--

สวัสดีค่ะ พี่เมจากทีม People นะคะ Blog ครั้งที่แล้วพี่เมได้รวบรวม คำถามที่ทีม People เจอบ่อยๆ ครั้งนี้เราจะมาคุยกันในขั้นตอนต่อไปค่ะ เป็นขั้นตอนที่น้องๆ ผ่านการคัดเลือกจากเรซูเม่และถูกเรียกให้มาสัมภาษณ์งานกับเราแล้วค่ะ

อยากให้อ่านบทความนี้ด้วยความตั้งใจ เพราะนี่จะเป็นแนวทางที่ทำให้น้องๆ ทำคะแนนในการสัมภาษณ์ได้อย่างง่ายๆ และในช่วงท้ายพี่เมยังมีคำแนะนำเบื้องต้นสำหรับน้องที่ผ่านการสัมภาษณ์กับเราไว้ด้วย เพื่อที่น้องๆ จะได้อุ่นใจและไม่ประหม่าในวันแรกของการมาเป็นสมาชิกใหม่ของ Wongnai ค่ะ

ก่อนวันสัมภาษณ์

ทำความรู้จักบริษัทและตำแหน่งงาน

เป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะเข้าใจธุรกิจและวัฒนธรรมของบริษัทที่เรากำลังจะไปสัมภาษณ์งาน การทำความรู้จัก Wongnai นอกจากการลองเล่น application ของเราแล้ว ยังสามารถเข้าไปอ่านบล็อก Life@Wongnai ได้อีกทาง ซึ่งนอกจากจะเห็นว่าเราทำงานอะไรบ้างแล้ว ยังได้เห็นวัฒนธรรมองค์กรและบรรยากาศการทำงานของที่นี่อีกด้วย

ศึกษาเส้นทางมาออฟฟิศ

ยุคนี้เรามี Google Maps ที่ช่วยบอกวิธีการเดินทางอย่างละเอียด พร้อมคำนวณเวลาเดินทางให้เราได้อีก ที่ Wongnai เราจะมี Email แจ้งยืนยันการนัดสัมภาษณ์ และใน Email ฉบับนั้น จะมีรายละเอียดการเดินทางระบุไว้อย่างชัดเจนค่ะ

แต่งตัวให้เหมาะสม

ที่ Wongnai เราแต่งตัวกันสบายๆ ดังนั้นการแต่งตัวมาสัมภาษณ์ก็ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองมากนัก ขอให้สุภาพ เรียบร้อย แต่อย่าเป็นทางการมากเกินไปนะคะ

การเลื่อนสัมภาษณ์

สามารถทำได้ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นจริงๆ โดยต้องโทรมาแจ้งตามเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ในหน้าเว็บ careers.wongnai.com หรือตอบกลับมาทาง Email นัดสัมภาษณ์ก็ได้เช่นกัน โดยควรจะแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วันค่ะ

พึงระลึกว่า ถ้าน้องเลื่อนนัดสัมภาษณ์ออกไป และทาง Wongnai ได้สัมภาษณ์ผู้สมัครคนอื่นก่อน หาก Wongnai เห็นว่าเหมาะสมก็อาจจะ offer ตำแหน่งนี้ให้ผู้สมัครคนนั้นไปเลย นั่นหมายถึงโอกาสที่น้องอาจจะเสียไปหากมีการเลื่อนสัมภาษณ์ค่ะ

ภาพลักษณ์บนสื่อออนไลน์

ที่ Wongnai เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน โดยเฉพาะตำแหน่งที่เป็นเสมือนตัวแทนของบริษัทฯ เช่น ทีม AE, ทีม Marketing และทีม People การใช้ Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ Twitter การโพสต์ การแชร์การแสดงความคิดเห็น รวมถึงการใช้ภาษา นอกจากนี้เราอาจดูรสนิยมของผู้สมัครทีม Content ได้จากสิ่งต่างๆ ที่ผู้สมัครโพสต์หรือแชร์เช่นกัน

ในวันสัมภาษณ์

มาถึงที่สัมภาษณ์ก่อนเวลา

พี่เมแนะนำว่า ให้มาถึงที่นัดก่อนเวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง แต่ยังไม่ต้องเข้าออฟฟิศค่ะ มาถึงเพื่อให้อุ่นใจและทราบแน่นอนว่าเรามาถูกที่แล้ว เห็นป้ายบริษัทแล้ว อาจจะหาร้านกาแฟนั่งตั้งสติ ทำจิตใจให้ปลอดโปร่ง เมื่อใกล้ถึงเวลาค่อยเข้าไป กะให้ถึงก่อนเวลานัด 10–15 นาที แบบนี้กำลังสวยค่ะ

ที่แนะนำให้มาถึงแต่เนิ่นๆ เพราะเผื่อเหตุฉุกเฉินเรื่องการเดินทางด้วยค่ะ อย่างน้อยเราก็ยังมีเวลาเหลือพอให้ไม่ต้องลุ้นจนเสียสมาธิในการสัมภาษณ์

เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย

ก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์ หรือแม้กระทั่งก่อนมาถึงที่สัมภาษณ์ ควรทำภารกิจเหล่านี้ให้เสร็จเรียบร้อย เพราะการขอไปเข้าห้องน้ำระหว่างการสัมภาษณ์คงจะดูแปลกๆ อยู่ ที่สำคัญมันยังรบกวนสมาธิในการตอบคำถามของตัวน้องเองด้วย

เป็นผู้ฟังที่ดีเพื่อนำไปสู่การตอบคำถามที่ดี

ควรตั้งใจฟังสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ถาม ควรฟังคำถามให้จบก่อนที่จะตอบ ไม่ควรถามแทรก และควรคิดก่อนตอบคำถาม อย่ารีบตอบเกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรหยุดคิดนานเสียจนเกิด dead air

การตอบคำถามควรกระชับ ตรงประเด็น ไม่น้ำท่วมทุ่ง บางครั้งการพยายามใส่เนื้อหามากไปในคำตอบอาจทำให้เราหลงประเด็นเสียเอง ควรพูดเน้นที่ผลงานที่ตัวเองได้ทำชัดๆ เช่น ถ้าสมัครตำแหน่ง Software Engineer ก็ควรยกตัวอย่าง product ที่เราเคยทำหรือถ้าสามารถเอามา demo ให้ดูได้เลยก็ยิ่งดี

การเอาประโยคจาก job description มาพูดจะไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะอาจทำให้รู้สึกว่าท่องจำโดยไม่ได้ทำความเข้าใจในตำแหน่งงานที่สมัครมาจริงๆ

มีคำถามที่น่าสนใจ

คำถามที่น่าสนใจคือคำถามที่แสดงให้รู้ว่าเราทำการบ้านมา หรือเรามีความสนใจในตำแหน่งงานนั้นๆ จริงๆ ส่วนคำถามที่ไม่ควรถามคือเรื่องที่เราสามารถหาข้อมูลได้เองอยู่แล้ว

จากที่สัมภาษณ์มา มีน้องๆ จำนวนไม่น้อยชอบถามถึงบรรยากาศการทำงานที่ Wongnai พี่เมก็อธิบายได้ประมาณหนึ่ง แต่จะบอกให้ไปอ่านบล็อก Life@Wongnai น้องจะสามารถเห็นภาพได้ดีกว่าที่พี่เมอธิบายหลายเท่าเลยค่ะ

Eye Contact เป็นเรื่องสำคัญ

สิ่งสำคัญคู่กับการฟังและการพูดก็คือการสบตา นอกจากจะทำให้อีกฝ่ายทราบว่าเรามีความมั่นใจและตั้งใจฟัง ยังสามารถทำให้ทราบได้ว่าคำตอบของเราทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอย่างไรด้วย

แม้กระทั่งภาษากายเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ถ้าน้องนั่งกระดิกเท้าตลอดเวลาหรือควงปากกาไปมาก็อาจทำให้พี่ๆ เสียสมาธิกับการสัมภาษณ์ได้

หลังการสัมภาษณ์

การตอบแบบสอบถาม

ทีม People จะมีการส่งแบบสอบถามการสัมภาษณ์งานให้ candidate หลังการสัมภาษณ์ เพื่อนำฟีดแบ็คมาปรับปรุงกระบวนการสัมภาษณ์ให้ดียิ่งขึ้น อย่าลืมว่าทุกความคิดเห็นมีความหมายสำหรับเรานะคะ ;)

การติดตามผลการสัมภาษณ์

ที่ Wongnai ปกติแล้วเราจะใช้เวลาในการพิจารณา 1–2 สัปดาห์ และแจ้งผลทางโทรศัพท์/Email ถ้าหากน้องไม่ได้รับการติดต่อตามระยะเวลาดังกล่าว สามารถสอบถามกลับมาใน Email ฉบับที่แจ้งยืนยันการนัดสัมภาษณ์ได้ค่ะ

การแจ้งผลว่าได้งานที่ Wongnai

หากทางเราตัดสินใจเลือกรับน้อง พี่เมจะเป็นคนโทร.ไป offer ตำแหน่งงาน พร้อมทั้งคุยเรื่องเงินเดือนและวันเริ่มงาน ตอนที่เราคุยกัน หากมีคำถามหรือความต้องการอะไรก็ขอให้บอกพี่เมตรงๆ ได้เลย เพื่อที่เราจะได้สรุปให้เรียบร้อยก่อนที่พี่เมจะจัดเตรียมสัญญาไว้ให้ CEO เซ็นอนุมัติ

การเข้ามาเซ็นสัญญา

ในวันที่เข้ามาเซ็นสัญญาควรเตรียมเอกสารมาให้พร้อม ซึ่งทาง People จะแจ้งไปทาง Email ล่วงหน้าก่อนวันนัดค่ะ โดยปกติแล้วขั้นตอนนี้จะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีค่ะ

สิ่งที่ต้องทำวันมาเริ่มงาน

วันแรกของการทำงาน ควรเริ่มต้นด้วยความสดใส ไม่ไปสาย ใจเปิดกว้างพร้อมรู้จักคนใหม่และเรียนรู้สิ่งใหม่ โดยทาง Wongnai จะมี Wongnai Employee Handbook ที่เป็นคลังความรู้สำคัญๆ สำหรับพนักงานใหม่

สัปดาห์แรกคือช่วงเวลาของการเรียนรู้ น้องควรจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน หากมีข้อสงสัยหรือปัญหาอะไรก็ให้บอกเพื่อนๆ และพี่ๆ ได้เลย พวกเราทุกคนพร้อมให้ความช่วยเหลือค่ะ

แล้วเจอกันที่ Wongnai ค่ะ ^_^

--

--