ตำแหน่ง PROCUREMENT
หนึ่งในเบื้องหลังสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กร

Life at LINE MAN Wongnai
Life@LINE MAN Wongnai
3 min readOct 19, 2023

--

‘Procurement’ อีกหนึ่งตำแหน่งเบื้องหลังสำคัญที่ช่วยในการขับเคลื่อนองค์กร ตั้งแต่การจัดหาสินค้า/บริการที่เหมาะสม ทั้งราคา คุณภาพ ความต้องการ ไปจนถึงการเจรจา ทำสัญญา เพื่อให้ได้สินค้า/บริการที่ดีที่สุดแก่องค์กร

หากใครอยากรู้ว่า Procurement ที่ LINE MAN Wongnai ต้องทำอะไรบ้าง ทักษะอะไรที่เรามองหา รูปแบบการทำงานและไลฟ์สไตล์ของพวกเราเป็นอย่างไร วันนี้มาหาคำตอบและทำความรู้จักกับ ‘เมล่อน’ Assistant Procurement Manager แห่ง LINE MAN Wongnai ในบทสัมภาษณ์นี้เลย

แนะนำตัว

สวัสดีค่ะ จริง ๆ ชื่อ ‘แคนตาลูป’ ค่ะ แล้วมาเปลี่ยนชื่อในวงการเป็น ‘เมล่อน’ เพราะอยากเข้ากับทีมได้ ในทีมชื่อขึ้นต้นด้วยตัว M หมด ไม่ว่าจะเป็น หม่อน ไหม มิ้ม

จาก ‘แคนตาลูป’ ก็เลยกลายมาเป็น ‘เมล่อน’ ค่ะ :D

เข้ามาทำงานที่ LINE MAN Wongnai ตอนปี 2020 ตั้งแต่บริษัท LINE MAN กับ Wongnai รวมกันตอนแรกเลย เรากับพี่อีกคนเข้ามาเป็น 2 คนแรกในทีม Procurement ตำแหน่ง Senior และตอนนี้เป็น Assistant Procurement Manager ค่ะ

จบ Marketing แต่ทำไมสนใจ Procurement

ตอนเรียนจบใหม่ ๆ เราอยากเข้าใจภาพรวมธุรกิจมากกว่าทำงานแค่แผนกเดียว เลยเลือกจากการเป็น Management Trainee ที่บริษัทแห่งหนึ่งในประเทศลาว ตอนนั้นได้ลองทำหลายอย่าง รวมถึงงาน Procurement ด้วย เราสนุกกับงานนี้มาก ได้ดีลความเสี่ยงกับผู้ผลิต ได้เรียนรู้การจัดการความเสี่ยงกับ Supply Chain ทำให้เห็นภาพรวมการทำงานของบริษัทมากขึ้น เลยทำให้เราสนใจงาน Procurement มากขึ้น

พอทำไปได้ประมาณ 3 ปี ก็เริ่มมองหาโอกาสใหม่ ๆ อยากนำความรู้ที่มีมาปรับใช้กับยุคสมัย เพราะที่ทำงานเดิมเป็นบริษัทใหญ่ ก่อตั้งมานาน ต้องทำตามนโยบายที่วางไว้ เปลี่ยนแปลงไม่ค่อยได้ เราเลยโฟกัสไปที่บริษัทสายเทค มองหาบริษัทที่มีความยืดหยุ่นด้วย ไม่ต้องตอกบัตร ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน สามารถทำงานที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ ลาได้ไม่จำกัด เน้นผลลัพธ์เป็นหลัก เพราะเรามั่นใจว่าเราเป็นคนที่มีวินัยสูง บวกกับเป็นคนที่ชอบเที่ยวด้วย

ตอนนั้นเราสนใจประเทศสิงค์โปร์และมาเลเซียอยู่ แต่พอลองดูที่ไทย แล้วเจอ LINE MAN Wongnai ที่นี่ก็ตอบโจทย์ ประกอบกับช่วงนั้นมีเปิดรับตำแหน่ง Procurement พอดี เลยสมัครผ่านเว็บไซต์มาโดยตรงเลย

บรรยากาศการสัมภาษณ์

ตอนสัมภาษณ์งานเราได้สัมภาษณ์กับพี่แม็กซ์ Finance และพี่ยอด CEO ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ LINE MAN และ Wongnai ควบรวมกันใหม่ ๆ ตำแหน่ง Procurement ที่ LINE MAN มีอยู่แล้ว แต่ที่ Wongnai ยังไม่มี

พี่แม็กซ์เล่าให้ฟังว่าบริษัทต้องการอะไร กำลังขาดอะไรอยู่ แล้วสิ่งที่เราต้องการ สิ่งที่อยาก contribute ให้บริษัทคืออะไรบ้าง พี่แม็กซ์บอกอีกว่าต้องการคนที่มาสร้างตั้งแต่ 0 เลย ซึ่งตรงกับสิ่งที่เราอยากทำ พอคุยกับพี่แม็กซ์แล้วรู้สึกว่าความคาดหวังและความต้องการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ส่วนพี่ยอดเป็นสไตล์การ challenge ว่าตำแหน่ง Procurement สำคัญยังไง เป็นที่ต้องการขนาดไหน ถามในมุมของธุรกิจ ด้วยความที่เราเรียนด้านการตลาดมา เลยค่อนข้างเข้าใจในมุมพี่ยอด

ตอนสัมภาษณ์ พี่แม็กซ์และพี่ยอดคุยเป็นกันเองมาก ไลฟ์สไตล์และ culture เป็นอะไรที่เข้ากันได้ เราก็เลยตัดสินใจกลับมาทำงานที่ไทยกับ LINE MAN Wongnai ค่ะ

ตำแหน่ง Procurement ต้องทำอะไรบ้าง

Procurement หรือจัดหา คือคนที่คอยจัดหาสินค้า/บริการที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจ โดยให้ได้มาซึ่งคุณภาพที่ดีที่สุดในต้นทุนที่ต่ำที่สุด ดูทั้งเรื่องราคา การขนส่ง ค่าปรับ การต่อรอง ไปจนถึงการทำสัญญา

ตอนเข้ามาแรก ๆ ได้ทำงานตั้งแต่การคุยความต้องการของแต่ละทีมแบบเจาะลึก เพื่อเอาไปวางแผนรายปี ทำให้รู้ว่าทั้งปีแต่ละทีมมีกี่โปรเจกต์ แตกย่อยเป็นรายเดือนว่าต้องทำอะไรบ้าง แล้วจัดหาผู้ผลิต/ผู้ให้บริการเพื่อต่อรองราคา จนได้เป็นข้อมูลไฟนอล จากนั้นก็จะคุยกับพี่ ๆ ผู้บริหาร โดยดูทั้งเรื่องราคา การขนส่ง ค่าปรับ เงื่อนไข ดีลงานจนถึงทำสัญญา แล้วให้แต่ละทีมเริ่มทดลองใช้งานหรือใช้งานจริง แต่ละโปรเจกต์ใช้เวลาตั้งแต่ 2 อาทิตย์ไปถึง 4 เดือน แล้วแต่ความใหญ่ของงาน

ทักษะที่ Procurement ต้องมี

1. การจัดลำดับความสำคัญ (Priority Management): เพราะแต่ละวัน Procurement มีงานหลายโปรเจกต์ มีงานเล็ก ๆ เยอะ ต้องรู้ว่าตอนนี้เราอยู่ stage ไหน ต้องทำอะไรก่อน จัดลำดับความสำคัญของงาน จัดการเวลาให้สามารถทำงานได้ภายในเวลาที่จำกัด

2. การคิดอย่างเป็นระบบ (Systematic Thinking): การมองภาพรวมอย่างเป็นระบบ จับประเด็นได้ งานเรามีส่วนประกอบอะไรบ้าง ต้องคุยกับใคร คุยอะไร ทำอะไรต่อ นอกจากนั้นต้องเข้าใจเนื้องานแบบแท้จริงด้วย

3. การเจรจาต่อรอง (Negotiation Skills): การสื่อสาร การรู้จักมีทางเลือกในการต่อรองเพื่อให้ได้สิ่งที่เป็นประโยชน์และเหมาะสมที่สุด

สไตล์การทำงานและจุดแข็งของทีม

1.ทำงานแบบทีมเวิร์ก: ทีมเราทำงานกันแบบทีมเวิร์กจริง ๆ ทำงานกันแบบมืออาชีพ มี empathy เข้าใจเพื่อนร่วมงานแต่ละคน เช่น ถ้ามีคนลาหรือใครมีปัญหางานล้น เราสามารถสลับงานกันได้เลย เหมือนมองตาแล้วรู้ใจ เพราะกระบวนการทำงานคล้ายกัน เรามีประชุมกันทุกสัปดาห์ มาแชร์งานที่แต่ละคนถืออยู่ บรีฟกันไม่ถึง 10 นาทีก็เข้าใจงานเพื่อน ๆ และสามารถทำแทนกันได้

2. มีทักษะจับปูใส่กระด้ง: เรามี Management Skills หรือทักษะจับปูใส่กระด้งนั่นเอง ด้วยความที่เรามีจำนวนงานเยอะ คนที่ต้องคุยด้วยก็เยอะ เราจะคอยดูว่าแต่ละคนมี pain อะไร จะเชื่อมโยงคนแต่ละกลุ่มเข้าด้วยกันได้ยังไง เช่น ผู้บริหารมีความต้องการอย่างนึง ทีมต้องการอีกอย่างนึง เราต้องหาตรงกลางให้ทุกคนทำงานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพที่สุด

3. มีความยืดหยุ่น: ถึงแม้ฟังดูว่างานจะเยอะ แต่เราก็มีความยืดหยุ่นในการทำงาน ยืดหยุ่นแบบมีหลักการนะ มีเป้าหมายชัดเจนว่าแต่ละโปรเจกต์ต้องการอะไร ถ้าเจออะไรแทรกกะทันหัน เราปรับวิธีการแก้ปัญหาให้ครอบคลุมได้ทันทีแบบไม่มีดราม่า

สไตล์การทำงานของหัวหน้า

หัวหน้า (พี่หม่อน) จะคอยไกด์เรื่อง Career Path ให้ทีมทุกคน คอยแนะนำว่าเราขาดอะไรอยู่ ต้องเติมอะไร เช่น ให้เราได้ทำโปรเจกต์ที่ใหญ่ขึ้น แนะนำเรื่องการนำเสนอให้ตรงประเด็น ดูว่าคนฟังต้องการอะไร ตอบอย่างไรให้ตรงใจ พี่หม่อนกล้าให้เราลองทำสิ่งใหม่ ๆ กล้าให้เราล้ม ให้โอกาสเราได้ฝึกกับพี่ ๆ ผู้บริหาร พอเราเปรียบเทียบกับตัวเองก่อนหน้านี้ รู้สึกว่าเราทำงานได้เร็วขึ้น ดีขึ้น และที่เราได้เป็น Assistant Manager ก็เพราะพี่หม่อนและการสนับสนุนจากเพื่อน ๆ ในทีมเลย

โปรเจกต์ ‘ยาก’ แต่ดีใจที่ได้ทำ และความภูมิใจในตำแหน่งนี้

คงจะเป็นโปรเจกต์ CRM Solution ค่ะ โปรเจกต์ที่ต้องเลือกโปรดักส์มาให้ทีมต่าง ๆ ใช้งาน เช่น ทีม Merchant, Ops, Fleet เพื่อให้เค้าสามารถดูและดึงข้อมูลไปใช้งานได้ง่าย ความยากคือเราต้องศึกษาโปรดักส์แต่ละตัวมาเปรียบเทียบกัน ด้วยความที่โปรดักส์มีมูลค่าสูง มันก็มีความซับซ้อนสูง แต่ละทีมมีความต้องการไม่เหมือนกัน เราต้องหาผู้ให้บริการ 3 เจ้าขึ้นไป เพื่อเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุด กว่าแต่ละทีมจะเข้าใจตรงกันก็ใช้เวลาพอสมควร เราใช้เวลากับโปรเจกต์นี้ประมาณ 5–6 เดือน แต่สุดท้ายก็ทำสำเร็จและผ่านมาได้

เป็นโปรเจกต์ที่เราดีใจมากที่ได้ทำ เพราะได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ต้องขอบคุณพี่หม่อนที่ยอมให้ได้ลองทำโปรเจกต์นี้

จากที่พี่ยอดเคยตั้งคำถามกับ Procurement ตอนสัมภาษณ์ แต่ตอนนี้เวลาพี่ยอดและ C-level คุยกับทีม Business จะถามเสมอว่าได้รีวิวจาก Procurement หรือยัง ทำให้รู้สึกภูมิใจว่าเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนากระบวนการการทำงานของบริษัท และสิ่งที่เราทำน่าจะช่วยทีมอื่น ๆ ได้เยอะเลย

จากตอนแรกที่เคยโดนตั้งคำถามว่า Procurement จะทำให้งานช้าหรือเปล่า ไม่อยากให้ Procurement มายุ่ง แต่ตอนนี้เค้าโอบกอด Procurement เข้ามาในกระบวนการทำงาน เราเลยรู้สึกภูมิใจมาก

โลกอีกใบคือการเต้น

เราชอบเต้น pole dance เรียนสัปดาห์ละ 4–5 ครั้ง ด้วยความที่ชอบเต้นอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กแข่งเต้นลีลาศ ตอนนี้พอมาเต้น pole dance มาเจอเสา ทำให้เราลืมคิดเรื่องงาน ลืมเรื่องเครียด เหมือนได้อยู่อีกโลกนึง จะทำยังไงให้เอาตัวรอดจากเสาได้ ต้องโฟกัส ต้องมีสมาธิตลอด 1 ชั่วโมง แต่ละเดือนเราก็มีพัฒนาการ ฉีกขาได้มากขึ้น แข็งแรงมากขึ้น เพราะจะมีท่าของแต่ละ level เหมือนเราได้ไต่ขึ้นไปเรื่อย ๆ คล้าย ๆ กับการทำงานที่เราอยากไต่ขึ้นไปเรื่อย ๆ

การได้ทำกิจกรรมทำให้เราได้เจอเพื่อนมากขึ้น ได้ทำอะไรใหม่ ๆ มากขึ้น เรามีเพื่อนหลายประเภท ทั้งเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว เพื่อนคุยการเมือง เพื่อนเม้าท์มอย สัปดาห์ไหนงานเยอะ อาจไม่ได้ไปเที่ยว ก็จะไปออกกำลังกาย สัปดาห์ไหนชิล ก็จะไปเที่ยวกับเพื่อน เรารู้สึกว่าการทำกิจกรรมมันช่วยบาลานซ์เคมีในชีวิตเราได้

มองหาคนแบบไหนเข้ามาร่วมทีม

  • มีความรู้ในงาน มีความรับผิดชอบ ทำงานแบบมืออาชีพ
  • โฟกัสผลลัพธ์ เพราะเราไม่ได้สนใจว่าจะทำงานตอนไหน หยุดตอนไหน แต่ต้องจัดการและรับผิดชอบงานได้
  • มีทัศนคติดี ไม่เป็นน้ำเต็มแก้ว อย่างพี่ ๆ ในทีมก็อายุเยอะกว่าค่าเฉลี่ยของคนในบริษัท แต่พี่ ๆ ปรับตัวกับทุกสถานการณ์ได้ดี สามารถแนะนำ ให้คำปรึกษา ให้เหตุผลได้ เปิดรับความเปลี่ยนแปลงและมีความยืดหยุ่น บอกเลยว่าพี่ ๆ ที่นี่ young at heart ทุกคนนนน :D

หากใครสนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ LINE MAN Wongnai ดูตำแหน่งที่เปิดรับและสมัครเข้ามาได้เลยที่ : https://careers.lmwn.com/

--

--