Exploring Product Management: Our PMP Experience (Part 1)

แนะนำตัวกันก่อน

สวัสดีทุกคนนนนน พวกเรา 4 คน เฌอ, หญ่าญ้า, แก่น, มิล เป็น Associate Product Manager จาก Product Management Program หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า PMP ปี 2023 ซึ่งเป็นรุ่นแรกเลย

หลังจากที่ได้ทำงานมาซักระยะหนึ่งแล้ว วันนี้พวกเราเลยจะมาเล่าประสบการณ์ และตอบคำถามที่คิดว่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่สนใจในสายงาน Product Management และโปรแกรม Product Management Program (PMP)

ก่อนอื่นเลยสำหรับหลาย ๆ คน ถ้าได้ยินคำว่า Product Manager ก็จะนึกถึงสายงาน Tech ที่ต้องเรียนจบทางด้านนี้มาถึงจะทำได้ แต่จริง ๆ แล้วงาน PM เรียนจบคณะไหนมาก็สามารถทำได้

PM ของเราก็มี Background ที่หลากหลาย จบมาจากคณะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิศวะ บัญชี เศรษฐศาสตร์ อักษร หรือประมง

พวกเรา 4 คนเองก็มาจากต่างคณะกัน โดยหญ่าญ้าจบมาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาสารสนเทศและการสื่อสาร เฌอกับมิลจบมาจากคณะบัญชี และแก่นจบมาจากคณะ BAScii

PM ในมุมมองของเด็กฝั่ง non-tech

ถ้าให้อธิบายสั้น ๆ เราจะบอกว่า Product Manager คือคนที่สร้าง Product Strategy และ Roadmap เพื่อตอบโจทย์ Business Objectives ควบคู่ไปกับการ Manage Resources ที่มีจำกัด ลองนึกภาพง่าย ๆ อย่างใน LINE MAN Wongnai เรามี Products ที่หลากหลาย อย่างเช่น แอปพลิเคชั่นทั้งฝั่งลูกค้า ที่มีทั้ง Food, Mart, Messenger, และ Service ใหม่ล่าสุดอย่าง Transportation, แอปพลิเคชั่นไรเดอร์, ร้านค้า หรือ Service อื่น ๆ ที่จะมาช่วยเสริมในเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นเหมือน Backbone ของแอปพลิเคชั่น เช่น Ads, Productivity, Search, หรือ Wongnai POS

ยกตัวอย่าง ถ้าเราเป็น Product Manager Food ที่ดูแลฝั่งลูกค้า (แอป LINE MAN) ในแต่ละวันจะมีโจทย์เยอะมากมายเกี่ยวกับ Feature ที่อยากให้พัฒนา ปัญหาระหว่างไรเดอร์ ร้านค้า และลูกค้า

หรือเมื่อเรามีการตั้ง Business Strategy ของบริษัทในแต่ละช่วง เราในฐานะ Product Manager ก็ต้องคิดว่าจะพัฒนา Product อย่างไรเพื่อช่วยแก้โจทย์เหล่านั้นหรือช่วยให้บริษัททำตามเป้าหมายได้สำเร็จ เช่น การพัฒนาฟีเจอร์เพื่อให้ลูกค้ามี Experience กับการใช้งานที่ดีขึ้น และให้ไรเดอร์สามารถส่งอาหารได้อย่างราบรื่น

แล้วหน้าที่ของ PM จริง ๆ แล้วทำอะไร?

จากภาพรวมของงาน PM ที่กล่าวไปข้างบน ถ้าแตกย่อยออกมาเป็นสิ่งที่ PM ต้องทำในแต่ละวันหรือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่จะออก Product มาสักชิ้นนึงนั้นมีอะไรบ้าง เราคิดว่าหน้าตาของการทำงานจะเป็นประมาณนี้

Understanding the Problem

• ก่อนที่จะเริ่มทำโปรเจคใด ๆ เราจะเริ่มต้นจากกำหนดปัญหาให้ชัดเจนเพื่อหาวิธีแก้ที่ตอบโจทย์ที่สุด โดยเราสามารถทำได้หลายทาง เช่น การไปคุยกับผู้ใช้งานจริง หรือการดู Data ที่จะชี้ว่าจุดไหนของแอพพลิเคชั่นมีปัญหา ซึ่งปกติเราก็จะใช้หลากหลายวิธีเพื่อศึกษาปัญหาให้ครบทุกมุม

Finding Practical Solutions

• จากนั้นเราก็จะนำข้อมูลที่ได้มาคิดหาวิธีแก้โดยส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของ Feature ใหม่ หรือการพัฒนาจาก Product ที่มีอยู่แล้ว นำไอเดียที่ได้ไปปรึกษา Stakeholders ที่เกี่ยวข้อง เช่น ทีม Marketing, Operations, Legal และอื่น ๆ หากต้องมีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาของแอปพลิเคชั่น เราก็จะนำคอนเซปท์ไปคุยกับ UX/UI เพื่อให้เขาช่วยดีไซน์ออกมา โดยจะมีการนำไปลองเทสกับผู้ใช้งานจริงเพื่อให้ได้ดีไซน์ที่ดีต่อผู้ใช้งานของเรามากที่สุด

Turning Ideas into Requirements

• อีกขั้นตอนสำคัญก็คือการนำสิ่งที่เราอยากได้มาเขียนออกมาเป็น Requirement ไปปรึกษากับทีม Engineer เพื่อประเมินความเป็นไปได้ทาง Technical และ Resources ที่ต้องใช้ในการพัฒนาของสิ่งนี้ โดย Solutions ที่ได้ก็มักจะมีหลายแบบที่มีข้อดีข้อเสียต่างกัน เช่น โจทย์คือต้องการสร้าง Promotion ให้ลูกค้าใช้ สามารถทำได้แบบ A และ B โดยที่
• แบบ A สามารถสร้างได้ครั้งละหนึ่ง Promotion เท่านั้น ทีม Operations ต้องใช้เวลามากขึ้นในการทำ แต่ทาง Engineer สามารถสร้างได้เสร็จภายในเวลา 2 อาทิตย์
• แบบ B รองรับ Bulk Operation ทำให้ทีมสามารถสร้างได้หลาย Promotion ในครั้งเดียว แต่ Engineer ต้องใช้เวลาถึง 1 เดือน

เราจะต้องตัดสินใจว่าอยากให้ทีมทำระบบแบบไหน สิ่งนี้ไม่ได้มีคำตอบที่ถูกหรือผิดแต่ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งไหนตอบโจทย์เรามากที่สุดในช่วงเวลานั้น ๆ เช่น หาก Promotion นี้เป็นเพียงการทดลองเล็ก ๆ หรือหากใน Product Roadmap ของเรามีงานอื่นที่ Priority สูงกว่า เราอาจจะอยากทำแบบ A ไปก่อนเพื่อที่จะสามารถใช้ Engineering Resources ที่มีจำกัดของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Ongoing Communication

• ในการทำงานจริงไม่ได้มีกำหนดว่าขั้นตอนใดต้องเกิดขึ้นก่อนหลัง เรามักจะคุยกับทุก Stakeholders ไปพร้อม ๆ กันเพื่อให้มั่นใจว่าทั้งทางด้าน Functionality, Design, และ Technical นั้นไปด้วยกันได้ และในระหว่าง Implementation นั้นก็เป็นปกติที่จะมีการปรับแต่งเพิ่ม โดยเฉพาะดีไซน์หรือ Requirement เนื่องจาก tech limitations ที่มาพบทีหลัง หรือปัจจัยอื่น ๆ

Measuring Success

• นอกจากพาร์ทของการสร้าง Product แล้วเราเองก้ยังต้องคอยทำงานกับทีม Business Intelligence ในการเตรียมแผนการวัดผลก่อนปล่อยและคอยดูผลลัพธ์หลังปล่อย Product ออกไป ดูว่าผู้ใช้งานนั้นตอบรับกับ Product ของเราอย่างไร เพื่อกำหนดแนวทางในการพัฒนาปรับปรุงหรือขยายออกไปยังผู้ใช้กลุ่มอื่น ๆ ต่อไป

สรุปสั้น ๆ เราจะเห็นว่า PM นั้นทำงานกับหลากหลายทีมตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย และก็ไม่ได้สิ้นสุดแค่การสร้างอะไรออกมาแต่เรายังเน้นไปที่การพัฒนา Product ที่มีประสิทธิภาพและ มอบประสบการณ์ดี ๆ ต่อผู้ใช้งาน อีกทั้งยังคำนึงถึง Technical Implementation ที่ง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตและเป็นประโยชน์ที่สุดกับ Ecosystem ของเรา

พูดมาถึงตรงนี้ ทุกคนคิดว่าทักษะอะไรคือทักษะที่สำคัญจริง ๆ สำหรับการเป็น PM

วันนี้พวกเราสรุปออกมาเป็น 3 ทักษะหลัก ๆ ได้แก่

1. Problem solving

หน้าที่หลักของ PM จะอยู่กับการแก้โจทย์ต่าง ๆ ที่ต้องวิเคราะห์ Market Needs, User Feedback, และ Business Data เพื่อจะหา Solution หรือ Feature ที่จะมาตอบโจทย์เหล่านั้นได้ เหมาะกับคนที่ชอบ และ รู้สึกสนุกกับการได้เจอปัญหาที่ท้าทาย

2. Technical

Technical ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่า PM ต้องเขียนโค้ดได้ หรือต้องจบสาย Technical มาโดยตรง แต่งาน PM ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องมีความรู้เชิง Technical มาประกอบการตัดสินใจ และอีกทั้ง PM ยังต้องทำงานใกล้ชิดกับ Engineer ความเข้าใจพื้นฐานทาง Technical จึงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับ PM

แต่อย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่าไม่จำเป็นต้องจบสายนี้มาโดยตรง เพราะสามารถเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ ระหว่างการทำงานได้ ขอแค่เปิดใจและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ก็พอ

3. Communication

อีกหนึ่ง Skill ที่ PM ขาดไม่ได้คือ การเป็นผู้พูดและผู้ฟังที่ดี เพราะงาน PM ต้องทำงานกับคนจากหลายทีมมาก ๆ ที่มี Background และ Focus point ที่แตกต่างกัน การสื่อสารและการรับฟังจึงจำเป็นอย่างมากสำหรับงานนี้ ในการอธิบาย Goals, Objectives และ Solutions ให้กับทีมและ Stakeholders อื่น ๆ อีกทั้ง จะต้องเข้าใจมุมมองของพวกเขา เพื่อนำมาวิเคราะห์ และแก้ไขให้ออกมาดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย

รอติดตาม Part 2 ที่จะมาพูดถึงเรื่อง โปรแกรม PMP ต่างจากสมัครเป็น PM ธรรมดาอย่างไร? และ จะรู้ได้อย่างไรว่าเราเหมาะกับงาน PM ไหม? ได้เร็ว ๆ นี้

สำหรับใครที่สนใจ Product Management Program (PMP) โครงการที่มองหา Product Manager เพื่อร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ LINE MAN Wongnai ให้ตอบโจทย์คนไทยมากยิ่งขึ้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://careers.lmwn.com/