Exploring Product Management: Our PMP Experience (Part 2)
โปรแกรม PMP ต่างจากสมัครเป็น PM ธรรมดาอย่างไร?
PMP เป็นโปรแกรมที่ให้ทุกคนได้มาเรียนรู้งานกับพี่ ๆ Senior PM ในบริษัทแบบใกล้ชิด
เริ่มตั้งแต่ Day 1 ที่เข้ามา ก็จะเน้นการเทรนให้เข้าใจการทำงานของ LINE MAN Ecosystem ทั้งเชิงธุรกิจและเทคนิค
จากนั้นจะมีการเทรนที่จัดขึ้นเพื่อ PMP โดยเฉพาะ เพื่อเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นต่องาน PM ครบทุกด้าน อันได้แก่
- Business : รู้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลผ่านเครื่องมือต่าง ๆ และการมองหาโอกาสธุรกิจเพื่อมาพัฒนา product ใหม่ ๆ และวัดผลของฟีเจอร์ที่เราปล่อยออกไป สำหรับการปรับปรุงในอนาคต
- Engineering : เข้าใจเบื้องหลังการทำงานของแอปพลิเคชั่น ทำให้เราคุย/ทำงานกับทีมวิศวกรรมรู้เรื่องและง่ายมากขึ้น
- UX/UI : เรียนรู้การออกแบบหน้าแอปให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ ทั้งด้านการใช้งานที่ตอบโจทย์ ความเข้าใจและ ความสวยงาม
- โปรแกรม PMP ยังสอนการเขียน requirement และคุยงานกับคนอื่นในบริษัทด้วย
เมื่อเทรนเสร็จ เราจะได้รับมอบหมายฟีเจอร์ให้ดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนถึง release ออกไป และวัดผลหลังจากออกไปแล้ว ระหว่างทางเราจะได้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากพี่ ๆ Senior PM ที่มีประสบการณ์สูง เช่น การบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าเราสามารถปล่อยฟีเจอร์ออกไปได้สำเร็จ
นอกจากนี้การที่เราเข้าโปรแกรม PMP ทำให้เราได้มีเพื่อนร่วมโปรแกรม ที่จะคอยเป็นที่ปรึกษาให้กับเราอีกด้วย ส่วนตัวพวกเราคิดว่าสิ่งนี้ดีและสำคัญมาก เพราะบางทีเราอาจสบายใจมากกว่าที่ได้ปรึกษากับเพื่อนที่เข้าใจเรา อีกทั้งไม่เหงาอีกด้วยเวลาหลังเลิกงาน เพราะมีแก๊ง PMP เนี่ยแหละที่ไปกินข้าวเย็นกับเรา
จะรู้ได้อย่างไรว่าเราเหมาะกับงาน PM ไหม ?
แม้ว่า PM แต่ละคนมีสไตล์การทำงานต่างกัน แต่คุณสมบัติที่เราเห็นบ่อย ๆ ว่า PM มักมีร่วมกันคือ เป็นคนที่ชอบการแก้ไขปัญหา สามารถเข้าไปจัดการปัญหา คิดถึงทางแก้หลายแบบ และประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้
หลายครั้งเราไม่สามารถแก้ปัญหาโดยวิธีที่ตรงตัวได้เสมอ เรายังต้องคำนึงว่าแต่ละโซลูชันมีทิศทางเดียวกับ product strategy ไหม หรือส่งผลกับแนวทางโดยภาพรวมอย่างไรด้วย ทำให้เราต้องดีลกับ stakeholders จำนวนมาก ดังนั้น PM จึงเหมาะกับคนที่มีทักษะการสื่อสารดี สามารถหาสมดุลระหว่างความต้องการแต่ละฝ่ายได้ เพราะสุดท้ายแล้วเราอาจไม่สามารถทำให้ทุกฝ่ายพอใจได้ที่สุด
ถ้าคุณเป็นคนชอบงานที่ต้องคิดอยู่ตลอดและได้ทำงานกับคนเยอะ ๆ เราว่า PM ก็เป็นอีกงานที่คุณควรลองสมัครเข้ามาเพราะมันอาจจะเป็นงานที่คุณกำลังมองหาอยู่ก็ได้
เด็กจบใหม่จะเตรียมตัวอย่างไรดี ?
จริง ๆ ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษเลย เพราะนอกจากได้ฝึกสกิลผ่านการทำงานจริงแล้ว โปรแกรม PMP ยังมีการเทรนอย่างเข้มข้นตลอดระยะเวลาโปรแกรม และมีพี่ ๆ ที่คอยซัพพอร์ทและแนะนำเราอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ต้น
แต่เพื่อเป็นการปูพื้นฐานที่ดี หลัก ๆ แล้วผู้สมัครควรมีความคุ้นเคยกับ product ของทางบริษัท หลายคนอาจเคยใช้อยู่แล้ว ถ้าใครไม่เคยก็ลองกดสั่งอาหารผ่านทางแอป LINE MAN หรือลองเรียกรถแท็กซี่หรือแมสเซนเจอร์ เราเพิ่งออกบริการใหม่ด้วยน้า ไปลองใช้กันดูนะคะไม่ว่าจะเป็น LINE MAN Eco หรือ LINE MAN Bike
สำหรับใครที่อยากได้คำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ เพิ่มเติมเราก็มี Tips and Tricks มาฝาก
- ในโลกของธุรกิจแบบ On-demand Services ผู้ให้บริการแบบเราไม่ได้มี stakeholders แค่ลูกค้าเท่านั้น อย่าง Food Delivery มีฝั่งร้านค้าร้านอาหารและฝั่งพี่ ๆ ไรเดอร์ด้วย ดังนั้นเวลาเราพัฒนา product ขึ้นมา เราต้องคิดถึงทุก ๆ stakeholders ถ้ามีความเข้าใจในหลายมุมก็ทำให้เราคิดพัฒนาฟีเจอร์ได้ดีขึ้น
- ที่ LINE MAN Wongnai เรามีบทความเยอะมาก หลังอ่านบทความนี้จบก็สามารถเลือกอ่านหัวข้ออื่น ๆ ได้ เพื่อทำความคุ้นเคยกับแอปพลิเคชั่นของเรา รวมถึงตำแหน่ง PM ที่ LINE MAN Wongnai มากขึ้นด้วย
- Associate Product Manager ที่ LINE MAN Wongnai ทำอะไรบ้าง
- ประสบการณ์เปลี่ยนสายงานจาก Software Engineer มาเป็น Product Manager ที่ LINE MAN Wongnai
- Product Manager ที่ LINE MAN Wongnai ทำอะไรบ้าง - อีกอย่างนึงคือ บริษัทเราให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมองค์กรมาก ถ้าอยากรู้ว่าเราทำงานกันยังไง ไปอ่านเพิ่มเติมได้เลยที่ Innovate Faster, Go Deeper, Respect Everyone
อ่านมาขนาดนี้ แปลว่ามีใจแล้ว สมัครด่วน โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ๊อยบ่อย
สมัครได้แล้วที่ https://bit.ly/LMWNPMP2 Let’s Digitalize Thailand :-)
สำหรับใครที่สนใจ Product Management Program (PMP) โครงการที่มองหา Product Manager เพื่อร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ LINE MAN Wongnai ให้ตอบโจทย์คนไทยมากยิ่งขึ้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://careers.lmwn.com/
