ด่านต่างๆ ที่ต้องเจอเมื่อสมัครงาน LINE MAN Wongnai Dev

Panawut Ittitananun
Life@LINE MAN Wongnai
3 min readMay 25, 2020

--

สวัสดีครับทุกคนผมอาร์ม เป็น Engineering Manager อยู่ที่ LINE MAN Wongnai งานหลักๆ เรื่องนึงที่ผมทำอยู่เป็นประจำคือการคัดเลือกคนเข้ามาร่วมทีม Dev ของ LINE MAN Wongnai เรานั่นเอง ซึ่งก็จะคอยดูแลผู้สมัครทุกคนตั้งแต่ต้นจนจบเลย เหมือนเป็นทีม People อีกคนเลยครับ ฮ่าๆ สาเหตุก็เพราะว่าเราคิดว่า Engineer ด้วยกันเองน่าจะคุยกันได้รู้เรื่องมากสุด ซึ่งตัวผมเองก็เริ่มต้นที่ตำแหน่ง Software Engineer มาก่อนครับ

ช่วงที่ผ่านมาผมเริ่มเห็นผู้สมัครหลายๆ คนที่สมัครงานหรือฝึกงานกับเรา มีคำถามที่คล้ายๆ กัน เช่น

  • เปิดรับสมัครเมื่อไหร่
  • รับสมัครทางไหนบ้าง
  • สมัครเข้ามาแล้วเราจะเจอกับขั้นตอนอะไรบ้าง
  • ใช้เวลาขนาดไหน และ ควรจะเตรียมตัวยังไง ฯลฯ

และผมก็เห็นข้อผิดพลาดของผู้สมัครมาเยอะเหมือนกัน เลยปรึกษากับทีม ว่าเรามาตีแผ่เรื่องพวกนี้เลยดีกว่า และแชร์เทคนิคและข้อผิดพลาดที่ไม่ควรมีด้วยเลยละกัน เผื่อช่วยเป็นแนวทางให้ทุกคนมั่นใจในการสมัครงานและสัมภาษณ์มากขึ้น

หัวข้อที่จะพูดถึงในบทความนี้มีประมาณนี้ครับ

  • จะติดต่อหรือสมัครงานได้ที่ไหน
  • ระยะเวลาการรับสมัคร
  • เรามีขั้นตอนอะไรบ้าง
  • ทำอย่างไรให้สมัครงานสำเร็จ

จะติดต่อหรือสมัครงานได้ที่ไหน?

ขอเริ่มต้นจากช่องทางติดต่อก่อนเลยครับ เรารับสมัครผ่านทางเว็บ careers.lmwn.com ซึ่งในเว็บไซต์จะรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับผู้สมัครไว้ให้แล้ว ทั้ง Job Description, Benefit, Salary หรือถ้าหากอยากได้ข้อมูลอื่นๆ มากขึ้น เช่น ทีมทำงานกันยังไง, บรรยากาศเป็นแบบไหน เพื่อประกอบการตัดสินใจ ก็สามารถหาอ่านเพิ่มได้ใน Medium Life at LINE MAN Wongnai

หากใครถูกใจตำแหน่งไหนก็สามารถกด Apply ผ่านหน้าเว็บเข้ามาได้เลย

นอกจากช่องที่กล่าวไปเรายังมีจัดรับสมัคร Intern/Fulltime กันเป็นโครงการด้วย แต่ว่าช่วงเวลาที่จะจัดไม่แน่นอนครับ สามารถติดตามข่าวสารได้ผ่านทาง Facebook Life at LINE MAN Wongnai หากมีโครงการรับสมัครเราจะประกาศให้ทุกทราบในทันที

ใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการสมัครงานก็สามารถติดต่อผ่าน Facebook Chat ของ Life at LINE MAN Wongnai ได้เลยเหมือนกัน เรามีพี่ๆ ทีม People คอยตอบให้อยู่ตลอดเวลาครับ :D

ระยะเวลาการรับสมัคร

เราเปิดรับสมัครกันอยู่ตลอดเวลาครับ ซึ่งวิธีสังเกตง่ายๆว่าตำแหน่งที่สนใจ LINE MAN Wongnai ยังเปิดรับอยู่ไหม? เต็มรึยัง? ให้ดูจากใน careers.lmwn.com ได้เลย หากมีตำแหน่งขึ้นอยู่ ก็หมายความว่ายังเปิดรับอยู่ครับ

โดยเฉพาะตำแหน่งที่ติดแท็ก Top Priority จะเป็นตำแหน่งที่มีการคัดเลือกเร็วกว่าตำแหน่งอื่นๆ ครับ (แต่ไม่ได้ลดเกณฑ์การคัดนะครับ ฮ่าๆ)

**ในกรณีที่เป็นการรับสมัครเป็นโครงการจะมีช่วงเวลาจำกัดขึ้นกับโครงการนั้นๆ ครับ

เรามีขั้นตอนอะไรบ้าง?

แต่ละตำแหน่งใน Dev Team ที่ LINE MAN Wongnai จะใช้กระบวนการคัดเลือกที่(เกือบ)เหมือนกันทั้งหมดครับ เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะสมัครเข้ามาในตำแหน่งใดก็ตาม (รวมถึงฝึกงานด้วย) จะได้เจอกับ 3 ขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้ครับ

  1. Profile Screening
  2. Take-home Assignment
  3. Interviews

Profile Screening

หลังจากกดสมัครเข้ามา นี่จะเป็นขั้นแรกที่เราจะเริ่มคัดคนโดยจะดูจากข้อมูลที่ผู้สมัครส่งมาไม่ว่าจะเป็น Resume, Transcript และผลงานที่แนบเข้ามาอย่าง เช่น Sourcecode ต่างๆ ใน GitHub, GitLab หรือที่อื่นๆ

หากใครเขียน Cover Letter มาด้วยก็จะดีมากครับ เพราะเป็นสิ่งที่คุณสามารถอธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงอยากทำงานที่ LINE MAN Wongnai และทำไมคุณถึงสมควรผ่านเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป จดหมายนี้สามารถสะท้อนถึงบุคลิกของตัวเองออกมาได้ดี ถ้าเขียนได้ดีก็จะสามารถสร้าง First Impression ให้กับพวกเราได้ครับ

ในบางครั้งหรือบางตำแหน่ง อาจจะมี Phone Screen เพิ่มเติม ถ้าหากเราอยากได้ข้อมูลเบื้องต้นเพิ่มเติมจากผู้สมัครก่อน

โดยปกติเราจะมีการตอบกลับผลภายในเวลาไม่เกิน 1–2 วันครับ เพราะเรานั่งคัดเลือกกันอยู่ทุกวัน ถ้าหากเกินกว่านั้นก็มีกรณีที่ตำแหน่งนั้นมี Resume ส่งเข้ามาเยอะจัดจนทำให้ดูไม่ทันครับ

แอบแทรกเทคนิคการเขียน Resume ครับ

  • ไม่จำเป็นต้องใส่ทุกทักษะที่เคยลองหรือเล่นมาก็ได้ครับ ใส่เฉพาะสิ่งที่ตัวเองมั่นใจว่าทำได้ดี พร้อมให้ทดสอบได้
  • ไม่ต้องมีรูปถ่าย เอาพื้นที่ตรงนี้ไปใช้ใส่ข้อมูลส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจแทนจะดีกว่ามาก
  • ส่งเป็นไฟล์ที่สามารถเปิดได้ด้วย Web Browser เลย อย่างเช่น PDF (หลีกเลี่ยงการใช้ไฟล์ docx ก็จะดีมากครับ)
  • ไม่ต้องใส่ปรอทพลัง มันเป็น Infographic ที่ทำให้เข้าใจง่ายก็จริง แต่มันไม่มีมาตรวัดที่แน่นอนให้กับคนอ่าน Resume รู้ว่าเก่งระดับไหนกันแน่ เราอยากเห็นมากกว่าว่าคุณเคยใช้ทักษะไหน “ทำอะไรมาบ้าง”
  • Font ไม่ควรเล็กเกินไปและไม่ควรใช้ Font Fancy
  • ถ้าหากเป็นคนมีประสบการณ์พยายามเล่าถึง Impact ของสิ่งที่เคยทำออกมาใน Resume

เกรดเฉลี่ยไม่ดีจะผ่านขั้นตอนนี้ไหม?

คำถามยอดฮิตครับ ซึ่งต้องแบ่งคำตอบแยกเป็น 2 กรณี

  1. New Grad

สำหรับน้องๆ ที่จบใหม่ ถึงแม้เกรดจะไม่ได้สวยงามก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะสิ่งที่เรามองหาอันดับแรกคือ “ประสบการณ์” ครับ เรามักเจอผู้สมัครที่เกรดไม่ได้หรูหรา แต่มีประสบการณ์มากมาย เช่น การได้รางวัลจากการแข่งขันต่างๆ, ประสบการณ์จากการรับงาน Freelance หรือฝึกงานมาอย่างต่อเนื่อง พวกนี้เป็นเครื่องยืนยันที่ดีกว่าเกรดครับว่าน้องต้องได้เรียนรู้อะไรมาบ้างแล้วนอกห้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเป็นทีม, การรับมือกับผู้จ้างงาน, ความคิดสร้างสรรค์, การออกไอเดีย​ และการแก้ปัญหาต่างๆ

แต่สำหรับน้องที่ไม่ได้มีประสบการณ์เขียนมาใน Resume ก็เลี่ยงไม่ได้ครับที่บริษัทจะต้องดูผลการเรียน เพราะมันก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความขยันได้บ้าง แต่สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ ปกติเราจะดูเกรดกันเป็นรายวิชาครับ เพราะเราจะได้โฟกัสถูกว่าผู้สมัครเรามีความสามารถในสิ่งที่เกี่ยวข้องขนาดไหน

2. Experienced

เพื่อนๆ พี่ๆ หลายคนที่มีประสบการณ์แล้ว Transcript บางคนอาจจะหายไปแล้วก็มี ซึ่งจริงๆ ผมก็อาจจะเป็นหนึ่งในนั้นครับ (ไม่รู้เก็บไว้ไหนแล้ว @_@)

เราจึงเน้นให้ความสำคัญกับประสบการณ์และความสามารถที่แสดงออกผ่านทาง Resume และผลงานมากกว่าครับ พยายามเขียนถึง #impact ของผลงานของเราว่ามีผลลัพธ์กับบริษัทกับเพื่อนร่วมทีมรวมถึงกับสังคมอย่างไร เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จับต้องได้มากกว่าครับ

Take-home Assignment

ผ่านขั้นตอน Profile Screening มาแล้ว ทุกคนจะได้รับ Take-home Assignment ที่จะให้เวลาในการทำ 7 วัน (แต่การบ้านไม่จำเป็นต้องใช้เวลา 7 วันก็ทำเสร็จแล้วนะครับ ให้เผื่อไว้ ❤)

ตัวการบ้านจะถูกส่งผ่านทางอีเมลและรายละเอียดของการบ้านจะแตกต่างกันไปในแต่ละตำแหน่ง

อย่าเผลอไป Move To Trash, Mark All As Read กันหละครับ เดียวหาไม่เจอ ฮ่าๆ

อ่อแล้วถ้ายังไม่เจอลองเช็คดูใน Junk Mail ด้วยนะครับ TT

Interview

ถ้าทำการบ้านผ่านเกณฑ์ที่เราตั้งไว้ ถึงตรงนี้ก็คือคุณได้เดินทางมาเกิน 50% ของขั้นตอนทั้งหมดแล้วนะครับ 😀 โดยปกติแล้วรอบนี้จะเป็น On-site Interview ที่ทุกคนจะต้องมาสัมภาษณ์กันที่ตึก LINE MAN Wongnai (T-One Building) ครับ

แต่เราก็มีทางเลือกสำหรับการ Video Call Interview ให้ครับ หากใครไม่สะดวกเดินทางมาที่ตึกให้แจ้งผ่านทางอีเมลได้เลย เดี๋ยวทีม People ของเราจะจัดการเรื่อง Video Call ให้ครับ

**ในสถานการณ์ COVID-19 ระบาด จะเป็น Online Interview ทั้งหมดครับ

ในรอบการสัมภาษณ์จะสามารถแบ่งได้เป็น 2 รอบย่อยครับ

  1. Interviewing With Related Engineers
  2. Interviewing With CTO (Only for Full Time)

Interviewing With Related Engineers

รอบนี้จะมี Engineer ในตำแหน่งที่เกี่ยวข้อง มาเป็นผู้สัมภาษณ์นะครับ ซึ่งจะมีประมาณ 1–2 คน และจะเน้นไปที่ Technical Interview

ก่อนมาสัมภาษณ์กับเรา ผู้สมัครสามารถเตรียมตัวได้โดยแบ่งหัวข้อที่อาจจะเจอวันสัมภาษณ์จริง 2 หัวข้อดังนี้

  • Technical Questions: แนะนำว่าให้ฝึกปฏิบัติให้มาก ๆ เพราะบางตำแหน่งจะเน้นไปที่การทำ Live Coding ยกตัวอย่างเช่น Software Engineer, Backend, Software Engineer, Frontend Software Engineer, Android, Software Engineer, iOS, Software Engineer, React Native, Software Engineer in Test and Site Reliability Engineer เราจะสัมภาษณ์ในรูปแบบของ Live Coding ซึ่งคำถามจะเกี่ยวข้องกับพื้นฐานของตำแหน่งหรือภาษาที่เราสมัคร เน้นวิธีการคิดและแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ และที่สำคัญต้องสามารถอธิบายที่มาที่ไปของคำตอบได้
  • General Questions : คำถามทั่วไปเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานของเราที่เขียนใน resume อย่างที่เล่าในตอนต้นการใส่ project ที่เราเคยทำที่แสดงให้เห็นถึง impact ของสิ่งที่เราเคยทำ จะทำให้คุณสามารถเล่าเรื่องใน part นี้ได้อย่างมั่นใจ

การสัมภาษณ์จะกินเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง — 1 ชั่วโมง 30 นาที ควรทานอาหารเติมพลังมาให้เยอะๆ ครับ

สำหรับใครที่ไม่ผ่านรอบนี้ หรือคุณยังไม่ได้ถูก Reject หมายความว่าคุณยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาครับ เราอาจจะเห็นความสามารถบางอย่างที่แฝงอยู่ในตัวคุณ และเห็นว่าอาจจะมีความเหมาะกับตำแหน่งอื่นๆได้ เราจะพยายามส่งต่อให้ทีมอื่นพิจารณาต่อไปครับ โดยเราจะติดต่อกลับไปหากมีการส่งต่อตำแหน่งครับ

**หากสมัครมาในตำแหน่งฝึกงาน รอบนี้จะเป็นรอบสุดท้ายครับ ถ้าผ่าน เราก็จะนัดเซ็นสัญญาเลย

**ขั้นตอนสำหรับการพิจารณาและตอบกลับผลสัมภาษณ์คือภายใน 7 วันครับ

Interviewing with CTO

Almost There! รอบสุดท้ายแล้วครับสำหรับ Full-Time รอบนี้จะได้สัมภาษณ์กับ CTO ซึ่งจะเน้นไปที่คำถาม Behavioral และ Hypothetical เพื่อประเมินผู้สมัครของเราว่ามีลักษณะและ Mindset เป็นแบบไหน เหมาะกับองค์กรมั้ย ซึ่ง Culture ของบริษัทถูกกำหนดโดย Core Value ทั้ง 3 ตัวคือ #InnovateFaster #GoDeeper #RespectEveryone

เมื่อคุณผ่านด่านมาได้ทั้งหมดจนถึงตอนนี้ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ! เพราะคุณจะเป็นหนึ่งในไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่ได้ภูมิใจที่ได้เซ็นสัญญากับ LINE MAN Wongnai ครับ เตรียมพบกันวันทำงานได้เลย !

ทำอย่างไรให้สมัครงานสำเร็จ?

เล่ามาขนาดนี้แล้วก็อยากจะแชร์ทริคในการสมัครงานหรือการสัมภาษณ์ด้วยเลยครับ ทุกคนสามารถนำทริคพวกนี้ไปปรับใช้กับการสมัครงานที่อื่นๆ ได้ด้วยไม่จำเป็นต้องเป็น LINE MAN Wongnai

  1. การรับสมัคร Dev ทุกที่คงเน้นที่ทักษะด้าน Technical เป็นหลักก่อน ที่ LINE MAN Wongnai ก็เช่นกันครับ พยายามฝึกปรือฝีมือ เน้นปฎิบัติและลงมือทำจริง สัมผัสจริง แก้ปัญหาจริงๆ ให้มากๆ ครับ
  2. ศึกษา Insights ของบริษัทที่เราสมัครเข้าไปให้มากที่สุด เพราะมันจะทำให้เรารู้ว่า เขากำลังมองหาคนประเภทไหนอยู่ หรือแม้กระทั่งมันจะใช้เป็นหัวเรื่องในการคุยช่วงสัมภาษณ์ได้ และมันแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นถึงความสนใจในตัวเรา
  3. เตรียมตัวสัมภาษณ์ให้ดี! หาความรู้และฝึกให้พร้อมก่อนการไปสัมภาษณ์ หากไม่ทราบว่าวันสัมภาษณ์จะเจออะไรบ้าง ลองอีเมลถามได้เลย
  4. ตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันแสดงออกถึงการจัดการเวลาของเราได้เป็นอย่างดี
  5. ถ้าเป็น Online Interview พยายามเตรียมเครื่องมือของเราให้พร้อมก่อนเวลาทั้ง Microphone, Camera, Internet
  6. ในช่วงการสัมภาษณ์พยายามพูดให้กระชับได้ใจความ
  7. ถ้ารู้ว่ามีการบ้าน พยายามจัดแจงเวลาให้ดี เพื่อที่เราจะโฟกัสกับการบ้านได้เต็มที่
  8. ถ้าหากไป On-site interview หยิบเสื้อหนาวติดไปด้วย เพราะในห้องสัมภาษณ์มันจะหนาวกว่าปกติ!
  9. หากมีคำถามสามารถ สอบถามผ่านทางอีเมลได้เลย

LINE MAN Wongnai Engineering Team ของเรากำลังขยายตัวขึ้นและเปิดรับคนอีกเป็นจำนวนมากครับ สมัครกันเข้ามาได้เลย ที่ https://careers.lmwn.com/development คนที่เคยสมัครไปแล้วแต่ไม่ติดก็ไม่ต้องเสียใจไป หากคิดว่าตัวเองพร้อมมากกว่าเมื่อก่อนแล้ว ก็สามารถสมัครซ้ำได้ครับ เรารอคุณมาเป็นส่วนหนึ่งของเราอยู่นะครับ :D ขอบคุณครับ

หมายเหตุ: ขั้นตอนที่เล่ามาทั้งหมดอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมนะครับ

--

--